Cryptos: 22,403 Exchanges: 539 Market Cap: 1,046,808,560,189 24h Vol: 46,208,726,589
BTC SteemSTEEM

Rank #394

coin

On 44,109 watchlists

Tags:

Media

Content Creation

Web3

Steem Price (STEEM)

$0.2
0.71%

STEEM Charts Live Data

Steem (STEEM) คืออะไร

Steem เป็นบล็อกเชนที่เน้นไปที่ชุมชนซึ่งสร้างโอกาสในการสร้างรายได้อย่างทันทีสำหรับผู้ใช้เครือข่าย โปรโตคอลได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับลูกค้าตามมูลค่าที่ลูกค้ามีต่อเครือข่าย มันได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้มีแพลตฟอร์มที่สามารถโพสต์เนื้อหาที่ผ่านการคัดสรรมาแล้วผ่านทางออนไลน์ และรับค่าตอบแทนเป็นคริปโตเคอร์เรนซี

โปรโตคอลนี้เป็นฐานข้อมูลบล็อกเชนที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับตนเองและรับผลตอบแทนไปในตัว มันใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีจากทั้งโซเชียลมีเดียและคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อส่งมอบคุณค่าแก่ผู้ใช้ เครือข่ายรับประกันผลตอบแทนที่ผู้ร่วมให้ข้อมูลจะได้รับอย่างเป็นธรรมโดยใช้โครงสร้างรางวัลที่สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้แต่ละคน

Steemit เป็นแอปตัวแรกที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชนของ Steem และเปิดตัวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2559 โปรโตคอลมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชนผู้ใช้ ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  • ให้ข่าวสารและข้อคิดเห็นที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี
  • สร้างโอกาสในการหารายได้
  • เป็นแหล่งข้อมูลที่ให้คำตอบสำหรับคำถามของผู้ใช้
  • เสนอคริปโตเคอร์เรนซีที่มีความเสถียรซึ่งราคาจะถูกตรึงไว้กับสกุลเงิน USD

ใครคือผู้ก่อตั้งของ Steem

Ned Scott ร่วมกับ Dan Larimer ผู้พัฒนาบล็อกเชนเปิดตัวแอปในครั้งแรกบนบล็อกเชนของ Steem ในเดือนมกราคม โดยมีชื่อว่า Steemit แอปพลิเคชันนี้จะคล้ายกับแอปโซเชียลเน็ตเวิร์กตัวอื่น ๆ ยกเว้นว่ามันมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ดังนั้นมันจึงเป็นแอปที่มีลักษณะ decentralized และ non-custodial ในตัว เครือข่ายไม่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปดังที่แพลตฟอร์มโซเชียลแบบดั้งเดิมต้องเผชิญ

Ned Scott ทำงานเป็นนักวิเคราะห์การดำเนินธุรกิจและการเงินที่ Gellert Global Group ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าอาหารของอเมริกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ถึง 2558 เขาได้พบกับ Dan ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของเขาในปี พ.ศ. 2558 โดยทั้งคู่มีความสนใจที่คล้ายกัน

Dan Larimer เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์และผู้ประกอบที่หลงใหลในเทคโนโลยีบล็อกเชน, DEX, สกุลเงินดิจิทัล และเทคโนโลยีอื่นๆ Dan ร่วมกับ Ned Scott ในการก่อตั้ง Steem และเป็น CTO ที่นั่นจนกระทั่งเขาลาออกจากบริษัทในปี พ.ศ. 2560

อะไรที่ทำให้ Steem ไม่เหมือนใคร

บริษัทโซเชียลมีเดียแบบดั้งเดิมหลายแห่งทำเงินได้มหาศาลจากเนื้อหาที่ผู้ใช้ของพวกเขาผลิตขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ Steem แตกต่างคือเส้นซัพพอทที่นำเสนอแก่ผู้ใช้ของมันในรูปแบบรางวัล สำหรับการให้ข้อมูลที่มีคุณค่าต่อแพลตฟอร์ม

คุณลักษณะเฉพาะอีกอย่างหนึ่งของเครือข่ายคือการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน — ซึ่งทำให้มันกลายเป็นเจ้าของแรกการให้บริการดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ มันจึงทำงานในรูปแบบ non-custodial และ decentralized โดยที่ไม่มีการหยุดทำงานหรือการใช้ข้อมูลในทางที่ผิด และข้อมูลของแพลตฟอร์มก็ได้รับการรักษาความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์เช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ใช้จะได้รับเงินสำหรับการเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มในรูปแบบสกุลเงินคริปโตอีกด้วย

Steem ยึดหลักการสำคัญข้อหนึ่ง: ผู้ที่มีส่วนร่วมในกิจการควรได้รับค่าตอบแทนจากเจ้าของ เหมือนกับที่สตาร์ทอัพทำโดยอาศัยการจัดสรรหุ้นระหว่างรอบการระดมทุน ความเชื่อหลักอีกประการหนึ่งคือการให้บริการสมาชิกในชุมชนด้วยบริการและโอกาสทางการเงินที่หลากหลาย

มีเหรียญ Steem (STEEM) หมุนเวียนอยู่กี่เหรียญ

ซึ่งแตกต่างจากบล็อกเชนอื่นๆ ที่เหรียญใหม่จะถูกสร้างขึ้นผ่านการขุด เนื่องจาก Steem มีการกระจายเหรียญ (STEEM) ในจำนวนมาก ไปยังพูลรางวัล STEEM ถือเป็นเหรียญหลักของโปรโตคอล พูลจะทำการแจกจ่ายโทเค็นให้กับผู้ใช้บนแพลตฟอร์มตามข้อมูลที่พวกเขาป้อนลงไป

พยาน (บัญชีที่ใช้ในการสร้างบล็อก) จะทำการเพิ่มบล็อกใหม่ไปยัง Steem blockchain ในทุกๆ สามวินาที ดังนั้นเครือข่ายจึงผลิต STEEM ในทุกวันและมีการแจกจ่ายเหรียญใหม่ในลักษณะดังต่อไปนี้:

  • ผู้ดูแลและผู้แต่งเนื้อหาจะได้รับโทเค็นในจำนวน 75% ของเหรียญใหม่ที่สร้างขึ้น
  • ผู้ใช้ที่มีการถือครอง Steem Power (คริปโตเคอร์เรนซีตัวอื่นๆ ของ Steem) จะได้รับเหรียญจำนวน 15% ของเหรียญทั้งหมด
  • ส่วนที่เหลืออีก 10% จะถูกมอบให้กับพยาน

คริปโตเคอร์เรนซีอีกสองตัวที่นอกเหนือจาก STEEM คือ Steem Dollars (SBD) และ Steem Power (SP)

เครือข่าย Steem มีความปลอดภัยอย่างไร

หลังจากที่บริษัทถูกซื้อโดย Justin Sun ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Tron ทางบริษัทก็มีการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของ Steem ตามมา ดังนั้นบล็อกใหม่จะไม่ถูกสร้างผ่านการขุดอีกต่อไป และเครือข่ายจะไม่ได้ใช้ proof-of-work.

โปรโตคอลไม่ได้อาศัย proof-of-work เพื่อสร้างบล็อกใหม่ แต่กำหนดให้พยานสร้างบล็อกในทุกสามวินาทีแทน อย่างไรก็ตาม Steem blockchain ใช้ proof-of-stake เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มและทำให้สามารถปรับขนาดได้มากขึ้น พยานจะได้รับรางวัล Steem Power สำหรับทุกบล็อกที่สร้างขึ้น

คุณสามารถซื้อ Steem (STEEM) ได้จากที่ไหน

มีตัวกลางการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีหลายแห่งที่ผู้ใช้สามารถซื้อโทเค็น Steem, SteemPower หรือ Steem Dollars (SBD) หรือแม้แต่ใช้สกุลเงินท้องถิ่นร่วมกันได้ ผู้ใช้ที่ไม่มีบัญชีสามารถซื้อผ่านตัวกลางการแลกเปลี่ยนคริปโต เช่น Binance ได้ด้วย นอกจากนี้ STEEM และ Steem Dollars ยังสามารถใช้เพื่อแลกเปลี่ยนเป็น bitcoin ได้อย่างง่ายดาย และสามารถใช้เพื่อแปลงเป็นสกุลเงิน fiat ได้ด้วย คลิกที่นี่ เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคริปโตในบล็อกของ CMC